การนำแท็บเล็ตพีซีมาใช้ในการจัดการศึกษาเป็นความพยายามที่จะพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
โดยใช้ประโยชน์จากความเป็นคนในยุคดิจิตอลของผู้เรียนในการเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา
หรือที่เราเรียกทับศัพท์ว่า “แท็บเล็ตพีซี” การศึกษาในยุคศตวรรษที่ 21 จะให้ความสำคัญกับการบวนการเรียนรู้มากกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ผู้สอนเปลี่ยนบทบาทจากผู้ถ่ายทอดความรู้โดยตรงเป็นผู้ให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก
ออกแบบการเรียนการสอนให้ผู้เรียนฝึกการค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต แท็บเล็ตพีซีเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่าย
รวดเร็วและมีคุณลักษณะที่เหมาะสมที่ช่วยในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แท็บเล็ตพีซีเป็นได้ทั้งสื่อและเครื่องมือมือหรับใช้ในการเรียนการสอน
หากนำไปใช้เป็นเครื่องมือ จะอยู่ในรูปแบบ mWBI คือ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้บน แท็บเล็ตพีซีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โดยมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เนื้อหาวิชาจะถูกโหลดจากอินเทอร์เน็ตในรูปแบบ html5 ผู้เรียนจะทำกิจกรรมสื่อการเรียนรู้และสร้างปฏิสัมพันธ์บนเครือข่าย
แต่ในบริบทประเทศไทยแล้ว แท็บเล็ตพีซีจะเป็นสื่อสำหรับใช้ในการเรียนการสอนแบบ mCAI ซึ่งเนื้อหาวิชาถูกบรรจุไว้ในรูปแบบ mobile
application และนำไปติดตั้งลงบนแท็บเล็ตพีซี
ผู้เรียนสามารถศึกษาเนื้อหาได้เลยโดยไม่ต้องรอการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การจัดการเรียนรู้จะเน้นการเรียนรู้แบบเอกัตภาพศึกษา (Individual Learning) โดยผู้เรียนจะเรียนรู้ตามความสนใจและความพร้อมของตนเอง
จะเห็นได้ว่าสื่อการสอนแบบ mCAI นั้น
เป็นบทเรียนสำเร็จรูปที่สะดวกต่อการใช้งานทั้งผู้สอนและผู้เรียนทั้งในสังคมเมืองและสังคมชนบทที่ห่างไกล
อันเป็นการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาได้ อย่างดียิ่ง
แต่ถ้าหากรัฐบาลสนับสนุนการจัดระบบโครงสร้างพื้นฐานให้กับสถานศึกษา
ให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้
ปรับลักษณะของอุปกรณ์แท็บเล็ตให้เหมาะสมกับการสืบค้นข้อมูล
ก็ยิ่งจะช่วยทำให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในยุคดิจิตอล
การเตรียมความพร้อม
ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการนำแท็บเล็ตไปปรับใช้ในการศึกษา
ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านต่างๆ
ต้องมีการเตรียมตัวเพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนสอนสอนด้วยแท็บเล็ตประสบความเร็จ
โดยแบ่งการปรับความพร้อมเป็นด้านต่างๆ ดังนี้
ด้านหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ควรจัดตั้งหน่วยงานในระดับเขตพื้นที่การศึกษาในการให้บริการ
ประสานงาน ซ่อมบำรุง และเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ
ซึ่งควรประกอบด้วยผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมถึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอน ทำหน้าที่คณะกรรมการของหน่วยงาน ด้านสภาพแวดล้อม/โครงสร้างพื้นฐาน/
การใช้งานแท็บเล็ตพีซีในการเรียนการสอนนั้น สามารถใช้งานได้ 2 ลักษณะดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
คือ แบบ mCAI และแบบ mWBI หรือแบบออฟไลน์และแบบออนไลน์นั้นเอง
ซึ่ง mCAI เป็นการใช้แท็บเล็ตพีซีในการเรียนการสอนโดยบรรจุบทเรียนสำเร็จรูปและสื่อมัลติมีเดียไว้ในแท็บเล็ต
เพื่อให้ผู้เรียนใช้ในการเรียนรู้โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
ส่วนการใช้งานแบบ mWBI เป็นการใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นเครื่องมือในการสืบค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์
ซึ่งจำเป็นต้องเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต ไร้สายความเร็วสูง ดังนั้นสถานศึกษาจึงต้องวางโครงสร้างระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายให้ครอบคลุมพื้นที่
โดยมีความเร็วมากพอในการดาวน์โหลดและอัปโหลด
และต้องมีจุดปลั๊กไฟสำหรับชาร์ทแบตเตอรี่ที่เพียงพอ
ด้วยข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานของสถานศึกษา และตัวอุปกรณ์แท็บเล็ต
จึงทำให้ประเทศไทยใช้แท็บเล็ตพีซีในการจัดการเรียนการสอนแบบ mCAI เท่านั้น นอกจากนี้
ต้องมีการเตรียมผู้สอนทั้งด้านความสามารถในการใช้แท็บเล็ต
และการออกแบบการจัดการเรียนการสอนผ่านแท็บเล็ต โดยการอบรม ให้ความรู้แก่ผู้สอน
รวมทั้งนิเทศติดตามการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ ประเมินผล
ดูแลรักษา และออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสูงสุดต่อผู้เรียน
ปัจจุบันรัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
จัดการอบรมการใช้งานแท็บเล็ตพีซีให้แก่ผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรียบร้อยแล้ว
แต่ในปีการศึกษา 2556 ซึ่งผู้เรียนได้เลื่อนชั้นไปยังชั้นประถมศึกษาปีที่
2 ยังไม่มีการจัดการอบรมการใช้แท็บเล็ตในการจัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่
2 แต่อย่างใด
ด้านผู้เรียน
การเตรียมความพร้อมของผู้เรียนถือว่ามีความสำคัญอย่างมากในการใช้งานแท็บเล็ตพีซี
เนื่องจาก นโยายที่ให้ผู้เรียนสามารถนำแท็บเล็ตไปใช้นอกสถานศึกษาได้
โดยใช้วิธียืมและส่งคืนเมื่อจบการศึกษาหรือย้ายสถานศึกษา
ดังนั้นต้องปลูกฝังผู้เรียนให้มีความรับผิดชอบในการใช้งาน
รววมทั้งต้องรู้จักการบำรุงรักษาเครื่องอย่างถูกวิธี
ในบริบทประเทศไทยการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนเป็นหน้าที่ของผู้สอนในการฝึกทักษะการใช้งาน
และการดูแลรักษา
ด้านผู้ปกครอง/ชุมชน
ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนสำคัญอย่างมากในการกำกับดูแลการใช้งานของผู้เรียนในปกครอง
ดังนั้นควรมีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจหลักการ เป้าหมาย การใช้งานที่ถูกวิธี
การบำรุงรักษา รวมถึงความรับผิดชอบต่อเครื่องแท็บเล็ตพีซี
เมื่อเกิดความเสียหายหรือสูญหาย
ในประเทศไทยการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาในการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว
ด้านนโยบายรัฐบาล
แผนการจัดการเรียนรู้ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการเรียนรู้ให้ประสบความสำเร็จ
ซึ่งปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำแผนจัดการเรียนรู้ด้วยแท็บเล็ตพีซี
และจัดส่งให้ทุกสถานศึกษา
เพื่อให้ผู้สอนผู้รับผิดชอบนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ทันที
โดยกระทรวงศึกษาธิการได้วางรูปแบบการใช้แท็บเล็ตพีซีเพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียนสำหรับสถานศึกษาขนาดเล็ก
เพื่อเป็นต้นแบบในการนำเอาไปปรับใช้ ดังนี้
รูปแบบการฝึกทักษะการใช้แท็บเล็ตพีซีเบื้องต้นโดยการสอนเป็นทีม
แนวทางการใช้รูปแบบการฝึกทักษะการใช้แท็บเล็ตพีซีโดยการสอนเป็นทีม
มีแนวทางที่สำคัญ คือ สถานศึกษาขนาดเล็กที่อยู่ใกล้กันมาจัดการเรียนรู้ร่วมกัน
ลดปัญหาการขาดแคลนผู้สอน และอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยคัดเลือกผู้สอนที่มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้โดยใช้แท็บเล็ตพีซีที่ดีที่สุดให้เป็นผู้สอนหลัก
ส่วนผู้สอนท่านอื่นมีบทบาทในการเป็นผู้สอนผู้ช่วยจัดการเรียนรู้
สถานศึกษาที่เป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนต้องจัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ให้พร้อมสมบูรณ์
อาจเป็นความร่วมมือของทุกสถานศึกษาที่ดำเนินการเรียนการสอนร่วมกัน เช่น
เครื่องฉายโปรเจกต์เตอร์ เครื่องฉายทึบแสง เอกสารคู่มือ เป็นต้น
โดยดำเนินเตรียมความพร้อมสำหรับผู้เรียนก่อนเป็นอันดับแรก
ได้แก่การฝึกทักษะการใช้งานเบื้องต้น การใช้บำรุงรักษาเครื่อง
และการสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนด้วยแท็บเล็ตพีซี
รูปแบบการใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อการจัดการเรียนรู้
(ปกติ)แนวทางการใช้รูปแบบการใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อการเรียนรู้ มีแนวทางที่สำคัญ
คือ ใช้แท็บเล็ตเป็นสื่อในการเรียนรู้ ผู้สอนต้องปรับแผนจัดการเรียนรู้ใหม่โดยนำแท็บเล็ตพีซีมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน
ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งขั้นนำเข้าสู่บทเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้บทเรียนที่บรรจุอยู่ในแท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อ
ขั้นสรุปโดยใช้แอปพลิเคชันในการสรุปสาระสำคัญที่เรียนรู้ไปแล้ว ขั้นการฝึกทักษะสามารถใช้แอปพลิเคชันเป็นแบบฝึกหัด
แบบทดสอบ ช่วยฝึกทักษะที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว
รูปแบบการฝึกทักษะการใช้แท็บเล็ตพีซีแทนสื่อและอุปกรณ์การสอน
รูปแบบการฝึกทักษะการใช้แท็บเล็ตพีซีแทนสื่อและอุปกรณ์การสอนนี้เน้นการใช้แท็บเล็ตพีซีแทนสื่อและอุปกรณ์การเรียนรู้
เช่น การใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ
ในการจัดการเรียนการสอนวิชาดนตรี
การใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนในการวาดภาพระบายสีในวิชาศิลปศึกษา
การใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นอุปกรณ์เขียนคำตอบจากโจทย์ปัญหาต่างๆ เป็นต้น
รูปแบบการใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นแหล่งการเรียนรู้
แนวทางเป็นรูปแบบการใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นแหล่งการเรียนรู้
สำหรับการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นการเรียนการสอนตามกระบวนวิจัย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และกระบวนการแก้ปัญหา ตามแนวคิดที่ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ได้ด้วยตนเอง
(Constructivism) โดยผู้เรียนจะเรียนรู้ด้วยสืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเอง
(Inquiry Learning & Self Directed Learning) ซึ่งในขั้นตอนการค้นคว้านั้น
ผู้เรียนสามารถใช้แท็บเล็ตพีซีในการเป็นเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูล
รวมถึงการบันทึกข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้า
รูปแบบการใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อการสอนซ่อมเสริม
ความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นสิ่งที่ผู้สอนต้องให้ความสำคัญ
ดังนั้นผู้เรียนในห้องเรียนจะมีทั้งผู้เรียนที่เรียนเก่งและผู้เรียนที่เรียนอ่อน
ผู้สอนต้องช่วยปรับปรุงผู้เรียนที่เรียนอ่อนและจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้เรียนที่เรียนเก่ง
การซ่อมเสริมแบบนี้อาจเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการขึ้นอยู่กับนโยบายและบริบทของสถานศึกษา
อาจใช้เวลาช่วงพักกลางวัน หลังเลิกเรียน หรือจัดชั่วโมงเรียนซ่อมเสริมโดยเฉพาะ
ผู้สอนสามารถใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอนซ่อมเสริม
โดยอาศัยบทเรียนที่บรรจุอยู่ในแท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อการเรียนการสอน
รูปแบบการสอนดังกล่าว
เป็นเพียงแนวทางที่ผู้สอนจะนำไปใช้ออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้แท็บเล็ตพีซี
โดยที่ผู้สอนสามารถนำรูปแบบต่างๆ เหล่านี้ ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพ
และบริบทในชั้นเรียนของตน เพื่อยกระดับคุณภาพของผู้เรียน
ให้สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ต่อไป
ผลการวิจัยการใช้ Taplet ในการศึกษา
มีงานวิจัยจำนวนมากเกี่ยวกับการศึกษาการนำแท็บเล็ตไปใช้ในการเรียนการสอน
ทั้งในรูปแบบของเครื่องมือสืบค้น และสื่อการเรียนรู้ กรณิการ์ ชูตระกูลธรรม ได้พัฒนาโปรแกรมเล่นดนตรีไทยบนแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
โดยโปรแกรมประกอบด้วยเครื่องดนตรี 3 ชนิด คือ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม
และฆ้องวงใหญ่ ซึ่งผู้ใช้สามารถเล่นพร้อมกับเสียงเครืองประกอบจังหวะ
มีโน้ตเพลงดนตรีไทยที่ผู้ใช้งานสามารถฟังเพลงตัวอย่างได้และประวัติของเครืองดนตรีแต่ละชนิด
จากการประเมินความพึงพอใจของโปรแกรมของผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้งาน
พบว่าอยู่ในระดับมาก จิราพร
กตารัตน์ศึกษาการใช้แท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอนของข้าราชการผู้สอนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย
เขต 1 พบว่า
ในภาพรวมการใช้แท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอนของข้าราชการผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
1 ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 1 จัดอยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ
ด้านการใช้แท็บเล็ตเพื่อ การบริหารจัดการเรียนรู้ ณัฐพร ทองศรี ทำการศึกษาความตั้งใจใช้แท็บเล็ตของผู้สอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราชเขต
3 การประยุกต์ใช้ตัวแบบการยอมรับเทคโนโลยี
ผลการศึกษาพบว่าผู้สอนมีความตั้งใจใช้แท็บเล็ตในการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2555
อยู่ในระดับปานกลาง
ปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลต่อระดับความตั้งใจใช้แท็บเล็ตมากที่สุดคือ
อิทธิพลทางสังคม นำชัย โบราณมูล ได้พัฒนาหลักสูตรอบรมการใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการเรียนรู้
เรื่อง การสร้างสเปรดชีทด้วยแอปพลิเคชัน Numbers สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 พบว่า หลักสูตรอบรมที่พัฒนาขึ้น มีคุณภาพในระดับเหมาะสมมาก
ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจหลักสูตรอบรมโดยมีคะแนนหลังอบรมสูงและก่อนอบรม
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อหลักสูตรอบรมฯ
อยู่ในระดับมากที่สุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 ศึกษาความสำเร็จของการใช้
Tablet เพื่อยกระดับการเรียนการสอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปี 2555 ผลการศึกษาพบว่า
ผู้สอนร้อยละ 75.5 มีความคิดเห็นว่าผู้เรียนเรียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น
ผู้เรียนร้อยละ 62.7 มีความสามารถเขียนสื่อความและจับใจความในระดับใช้ได้
ผู้เรียนร้อยละ 61.7 เขียนภาษาอังกฤษในระดับใช้ได้ ผู้เรียนร้อยละ 52.1
พออ่านภาษาอังกฤษได้แต่ยังต้องพัฒนา ผู้เรียนร้อยละ 96.7 รู้สึกว่าแท็บเล็ตมีประโยชน์
ผู้เรียนร้อยละ 81.3 เห็นว่าแท็บเล็ตใช้ง่าย ผู้เรียนร้อยละ 97.6
ชอบแท็บเล็ต ผู้สอนร้อยละ 92.5 ชอบใช้แท็บเล็ตในการสอน
ผู้สอนร้อยละ 94.9 รู้สึกว่าแท็บเล็ตมีประโยชน์หลายอย่าง
ผู้สอนร้อยละ 94.8 เห็นว่าแท็บเล็ตสนับสนุนและกระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน
จักรพล เร่บ้านเกาะ พัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book)
ที่ใช้บนคอมพิวเตอร์พกพาหน้าจอสัมผัสในวิชางานหลอมหล่อเครื่องประดับ
เรื่องการหล่อโลหะ พบว่า
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 โดยผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระดับดี
จากผลการศึกษาวิจัยการนำแท็บเล็ตพีซีไปใจในการจัดการเรียนการสอนพบว่า
ผู้เรียนส่วนใหญ่มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น
เนื่องด้วยอิทธิพลทางสังคมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อระดับความตั้งใจในการใช้แท็บเล็ต
ทั้งยังมีการพัฒนาหลักสูตรการอบรมผู้สอนที่มีคุณภาพให้สามารถใช้แท็บเล็ตในการจัดการเรียนการสอน
อย่างไรก็ตามควรคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาหลังจากการนำแท็บเล็ตพีซีมาใช้ในการเรียนการสอนด้วย
ผลกระทบจากการใช้แท็บเล็ตพีซีในการเรียนการสอน
ในการใช้แท็บเล็ตพีซีในการเรียนการสอน
มีผลกระทบในด้านต่างๆ ดังนี้
ผลกระทบเชิงบวก
ผลกระทบเชิงบวกจาการใช้แท็บเล็ตพีซีในการเรียนการสอนต่อตนเอง
ครอบครัว สถานศึกษาและต่อสังคม อาทิเช่น
แท็บเล็ตเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาให้กับเด็ก
เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เด็กๆ
ได้ศึกษาวัฒนธรรมต่างแดนผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา
สามารถเรียนรู้ภาษาด้วยการใช้เป็นวิดีโอแชทกับชาวต่างชาติเพื่อฝึกภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องเขินอายเหมือนกับการสื่อสารต่อหน้า
ทำให้การเรียนเป็นเรื่องสนุกและเข้าใจง่ายขึ้น
แตกต่างจากการเรียนจากหนังสือซึ่งไม่น่าสนใจและเข้าใจยากกว่า
ทำให้ผู้สอนสามารถเข้าถึงรูปภาพ วีดิโอคลิป และข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลก
เพื่อใช้สร้างบทเรียนที่น่าสนใจให้แก่ผู้เรียน
ผลกระทบเชิงลบ
การนำแท็บเล็ตพีซีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อผู้เรียนได้
อาทิเช่น อาจมีผู้เรียนจำนวนมากติดอินเทอร์เน็ต เด็กจะอยู่คนเดียว เล่นคนเดียว
หรือเล่นกับเพื่อนสองสามคน ขาดการมีปฏิสัมพันธ์เชิงสังคมกับผู้อื่น
ขาดหรือออกกำลังกายน้อยลง มีปัญหาเรื่องสายตาสั้น มีปัญหาด้านสุขภาพ
และทำให้เด็กคุ้นเคยกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์
จนอาจทำให้ติดและทำให้ส่งผลต่อผลการเรียน
ปัญหาและอุปสรรค
นโยบายของรัฐบาลในการจัดสรรแท็บเล็ตพีซีนับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปฏิวัติการเรียนรู้ของผู้เรียนไทย
เพียงแต่อาจเกิดปัญหาตามมาหลังจากที่มีการแจก Tablet ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
การเรียนการสอนโดยใช้แท็บเล็ตพีซีอาจไม่จำเป็นต้องพัฒนาหลักสูตรขึ้นมาใหม่
แต่จำเป็นต้องมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่นำแท็บเล็ตพีซีมาใช้เป็นสื่อหรือเครื่องมือในการเรียนการสอน
ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำแผนจัดการเรียนรู้จากส่วนกลางส่งให้ทุกสถานศึกษา
เพื่อให้ผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นำไปใช้จัดการเรียนการสอน
แต่มีข้อสังเกตคือแผนจัดการเรียนรู้นี้ยืดหยุ่นพอหรือไม่ในการใช้จัดการเรียนการสอนในบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละสถานศึกษา
ผู้สอนยังขาดทักษะการใช้อุปกรณ์ Tablet เพื่อการจัดการเรียนการสอน
ในขณะที่ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเรียน
เมื่อผู้เรียนเลื่อนชั้น
เนื้อหาบทเรียนในชั้นเดิมจะถูกลบเพื่อใส่เนื้อหาบทเรียนในชั้นใหม่เข้าไป
เนื่องจากเนื้อที่การจัดเก็บข้อมูลของแท็บเล็ตมีจำกัด
ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถกลับมาทบทวนเนื้อบทเรียนเดิมได้
ภาระด้านการบำรุงรักษา การแก้ปัญหาเรื่องอุปกรณ์
และการใช้งานเป็นภาระของสถานศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหมดระยะประกัน
อุปกรณ์แท็บเล็ตเปลี่ยนรุ่นเร็วมาก
ดังนั้นแท็บเล็ตที่จัดหามาแจก
ควรมีมาตรฐานรองรับสื่อบทเรียนและแอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นใหม่
ในขณะที่ด้านเทคนิคก็พบปัญหามากมาย เช่น แบตเตอรี่หมดเร็ว
ใช้งานได้ติดต่อกันน้อยกว่า 1 ชั่วโมง เครื่องร้อน
โดยสถานศึกษาหลายแห่งเสนอให้ส่วนกลางจัดสรรงบประมาณการจัดซ่อมบำรุงแท็บเล็ต
และสำรองเครื่องเพื่อรองรับปัญหา แต่ก็ยังไม่ได้รับการจัดการมากนัก
ด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว
ซึ่งเล็กเกินไปสำหรับการอ่านข้อความจากเว็บไซต์ การสัมผัสที่ไม่ลื่นไหล
ระบบอินเตอร๋เน็ตของสถานศึกษาไม่เร็วและเสถียรพอ
จึงเป็นการยากที่จะใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นเครื่องมือในการสืบค้น
จากงานวิจัยส่วนใหญ่เป็นการศึกษาทัศนคติของผู้เรียนหรือผู้สอน
การพัฒนาแอปพลิเคชัน บทเรียน
แต่ยังขาดงานวิจัยที่ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนเมื่อนำแท็บเล็ตพีซีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
เพื่อยืนยันว่าแท็บเล็ตสามารถช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนได้จริง
ซึงผลด้านลบจากการใช้แท็บเล็ตในการเรียนการสอนจึงเป็นสิ่งที่ผู้สอนต้องพึงตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
แนวทางและความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา
จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้ให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อประกอบการเรียนการสอน
สำหรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มาระยะหนึ่ง
พบว่ามีหลายประเด็นปัญหาในการใช้งานที่เป็นอุปสรรคต่อการจัดการเรียนการสอน
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแท็บเล็ตพีซีเอง บทเรียนหรือแอปพลิเคชัน
โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสถานศึกษา
ทักษะการใช้งานของผู้สอนและผู้เรียน
หลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการเรียนรู้โดยใช้เครื่องแท็บเล็ตพีซีเป็นฐาน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
คณะผู้เขียนจึงได้เสนอข้อเสนอแนะให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขโครงการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ
ดังนี้
รัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณในการจัดโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับสถานศึกษาโดยเฉพาะสถานศึกษาที่อยู่ในชนบทห่างไกล
ให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สถานศึกษาต้องจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้โดยใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นฐาน
(Tablet Based Learning) เช่น ระบบกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย
อุปกรณ์ชาร์ตแบตเตอรี่ จุดติดตั้งปลั๊กไฟในห้องเรียน โปรเจกต์เตอร์ และระบบเสียง
เป็นต้น
หากเป็นไปได้สถานศึกษาควรจัดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสถานศึกษาโดยเฉพาะ
เพื่อช่วยในการจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในให้มีประสิทธิภาพ
ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพและประสิทธิภาพของเครื่องแท็บเล็ตพีซีที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของผู้เรียนในแต่ละระดับ
เช่น ขนาดหน้าจอ ความสว่างของหน้าจอ ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่
พอร์ตเชื่อมต่อที่จำเป็น สเปคของเครื่อง ความทนทาน ความปลอดภัยในการใช้งาน เป็นต้น
ควรทดลองใช้กับกลุ่มทดลองก่อน เพื่อศึกษาผลกระทบ
ผลลัพธ์ ปัญหาจากการใช้งาน รวมถึงประเมินความคุ้มค่า และนำผลการศึกษามาปรับปรุงแก้ไขการใช้งานแท็บเล็ตพีซีเพื่อการเรียนการสอนห้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ควรมีการพัฒนาผู้สอนให้สามารถใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นสื่อประกอบการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งให้ผู้สอนสามารถพัฒนาบทเรียนหรือแอปพลิเคชันบนแท็บเล็ตพีซี
พัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ให้ตรงกับบริบทของสถานศึกษาและตรงกับความต้องการของผู้เรียน
รวมทั้งรู้วิธีการดูแลรักษาแท็บเล็ตพีซีอย่างถูกต้องและเหมาะสม
สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้สอนพัฒนาแผนจัดการเรียนรู้โดยใช้แท็บเล็ตพีซีเป็นฐาน
ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะที่สำคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมยุคศตวรรษที่
21 ได้อย่างมีความสุข
ควรมีการฝึกทักษะการใช้งานแท็บเล็ตพีซีให้กับผู้เรียน
ทั้งการใช้งานเบื้องต้น การเข้าถึงและเรียนรู้บทเรียน
การสืบค้นข้อมูลความรู้จากอินเทอร์เน็ต รวมถึงการใช้งานที่ถูกวิธี
การวางแผน การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา
การศึกษาวิจัยในเรื่องของผลกระทบให้รอบด้าน ทั้งผู้สอน ผู้เรียน
และการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ
สำหรับสถานศึกษาที่มีความพร้อมในทุกด้านแล้ว ควรคำนึงถึงการออกแบบ การจัดการเรียนรู้
การกำกับดูแลการใช้งานของผู้เรียนอย่างใกล้ชิด
เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยใช้แท็บเล็ตพีซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันเป็นการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดจนทักษะที่บุคคลในศตวรรษที่ 21 พึงมี
อีกทั้งยังเป็นการลดผลกระทบด้านลบที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น